แน่นอน 😎 มาลงลึกเรื่อง C# Type Casting พร้อมตัวอย่างและคำอธิบายทีละขั้นตอน

🔹 C# Type Casting – การแปลงชนิดข้อมูล

Type Casting คือการแปลงค่าจาก ชนิดข้อมูลหนึ่งไปเป็นอีกชนิดหนึ่ง ใน C# เราสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความเข้ากันได้ของชนิดข้อมูล

1️⃣ Implicit Casting (การแปลงอัตโนมัติ)

เงื่อนไข:

• การแปลงชนิดที่ ปลอดภัย

• ไม่มีข้อมูลสูญหาย

ตัวอย่าง:

int i = 100;
double d = i; // แปลงจาก int -> double อัตโนมัติ
Console.WriteLine(d); // 100

คำอธิบาย:

• int มีขนาดเล็กกว่า double

• C# แปลงให้เองโดยไม่ต้องใช้คำสั่งพิเศษ

2️⃣ Explicit Casting (การแปลงโดยบังคับ)

เงื่อนไข:

• การแปลงชนิดที่ อาจทำให้ข้อมูลสูญหาย

• ต้องใช้เครื่องหมาย (type)

ตัวอย่าง:

double d = 123.45;
int i = (int)d; // แปลง double -> int (ตัดทศนิยม)
Console.WriteLine(i); // 123

คำอธิบาย:

• การบังคับแปลงทำให้ทศนิยมถูกตัดทิ้ง

• ต้องระวังข้อมูลสูญหาย

3️⃣ Using Convert Class

Convert ช่วยแปลงชนิดข้อมูลอย่างปลอดภัย

string str = "123";
int i = Convert.ToInt32(str);
Console.WriteLine(i + 1); // 124

bool b = Convert.ToBoolean("true");
Console.WriteLine(b); // True

ข้อดี:

• แปลงจาก string เป็น int, double, bool ได้

• ปลอดภัยกว่า explicit cast

4️⃣ Using Parse และ TryParse

Parse – แปลง string เป็นชนิดอื่น

string s = "3.14";
double d = double.Parse(s);
Console.WriteLine(d); // 3.14

ข้อควรระวัง:

• ถ้า string ไม่ใช่ตัวเลข จะเกิด Exception

TryParse – แปลงแบบปลอดภัย

string s = "abc";
bool success = int.TryParse(s, out int result);

Console.WriteLine(success); // False
Console.WriteLine(result);  // 0 (default)

ข้อดี:

• ป้องกัน Exception

• รู้ผลการแปลงผ่าน success

5️⃣ Casting กับ Object / Class

Upcasting (ชั้นบน)

class Animal { public void Speak() => Console.WriteLine("Animal speaks"); }
class Dog : Animal { public void Bark() => Console.WriteLine("Woof!"); }

Dog dog = new Dog();
Animal a = dog; // Upcast เป็น Animal
a.Speak();      // Animal speaks

Downcasting (ชั้นล่าง)

Animal a = new Dog();
Dog d = (Dog)a; // Downcast ต้อง explicit
d.Bark();       // Woof!

คำเตือน:

• Downcast ต้องแน่ใจว่า object เป็น instance ของ subclass

• หากไม่ใช่ จะเกิด InvalidCastException

6️⃣ Using as และ is Keyword

• as – แปลง object ถ้าไม่ได้ type จะคืนค่า null

Animal a = new Dog();
Dog d = a as Dog;
if(d != null) d.Bark();

• is – ตรวจสอบชนิดก่อน cast

Animal a = new Dog();
if(a is Dog d)
{
    d.Bark();
}

ข้อดี:

• ปลอดภัยกว่า explicit cast

• ป้องกัน InvalidCastException

7️⃣ Summary

💡 Tip:

• ใช้ implicit cast เมื่อปลอดภัย

• ใช้ Convert / TryParse กับ string

• ใช้ as / is กับ class inheritance